การออกแบบการเรียนการสอน
ความหมายของระบบ
มีผู้ให้ความหมายขอคำว่า “ระบบ”
(system) ไว้หลายคน เช่น บานาธี่ (Banathy, 1968)
หรือ วอง (Wong, 1971) บานาธี่ ได้ให้ความหมายของคำว่าระบบว่า “ระบบ หมายถึงองค์ประกอบต่างๆ ที่มีความสัมพันธ์ซึ่งกันและกัน
มีปฏิสัมพันธ์กัน
ซึ่งองค์ประกอบทั้งหลายเหล่านี้จะร่วมกันทำงานเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันเพื่อให้บรรลุถึงจุดมุ่งหมายที่ได้กำหนดไว้”
ความหมายของระบบตามแนวทางของวองก็จะมีลักษณะแนวทางใกล้เคียงกับของบานาธี่
โดยวองให้ความหมายของระบบวา “ระบบ หมายถึง
การรวมกลุ่มของส่วนประกอบต่างๆ ที่มีปฏิสัมพันธ์ซึ่งกันและกัน
ทั้งนี้เพื่อให้บรรลุจุดมุ่งหมายที่ได้กำหนดไว้” จากความหมายข้างต้น
สามารถสรุปได้ว่าระบบจะต้องมี
1. องค์ประกอบ
2. องค์ประกอบนั้นต้องมีความสัมพันธ์ มีการโต้ตอบ
มีปฏิสัมพันธ์กันและ
3. ระบบต้องมีวัตถุประสงค์ในการดำเนินกิจกรรมนั้น ๆ
ปัญหาในระบบการเรียนการสอน
....เป้าหมายหลักของครูหรือนักฝึกอบรมในการสอน
คือการช่วยให้ผู้เขียนหรือผู้เข้ารับการฝึกอบรมได้เรียนรู้
และในการช่วยให้เกิดการเรียนรู้นี้มีปัญหาหลัก ๆ
อยู่หลายประการที่ผู้ออกแบบการเรียนการสอนจะต้องตระหนักและพยายามหลีกเลี่ยง
ปัญหาดังกล่าวคือ
.....1. ปัญหาด้านทิศทาง (Direction)
.....2. ปัญหาด้านการวัดผล (Evaluation)
.....3. ปัญหาด้านเนื้อหาและการลำดับเนื้อหา (Content and Sequence)
.....4. ปัญหาด้านวิธีการ (Method)
.....5. ปัญหาข้อจำกัดต่าง ๆ (Constraint)
ปัญหาด้านทิศทาง
.....ปัญหาด้านทิศทางของผู้เรียนก็คือ
ผู้เรียนไม่ทราบว่าจะเรียนไปเพื่ออะไร ไม่รู้ว่าจะต้องเรียนอะไร
ต้องสนใจจุดไหน สรุปแล้วพูดไว้ว่าเป็นปัญหาด้านจุดมุ่งหมาย
-
ปัญหาด้านการวัดผล
.....ปัญหาการวัดผลนี้จะเกิดขึ้นกับทั้งผู้สอนและผู้เรียน
ผู้สอนจะมีปัญหา เช่น จะรู้ได้อย่างไรว่าผู้เรียนของตนเกิดการเรียนรู้หรือไม่
จะรู้ได้อย่างไรว่าวิธีการที่ตนใช้อยู่นั้นใช้ได้ผลดี
ถ้าจะปรับปรุงเนื้อหาที่สอนจะปรับปรุงตรงไหน จะให้คะแนนอย่างยุติธรรมได้อย่างไร
ปัญหาของผู้เรียนเกี่ยวกับการวัดผลอาจเป็น
ฉันเรียนรู้อะไรบ้างจากสิ่งนี้ ข้อสอบยากเกินไป ข้อสอบกำกวม อื่น ๆ
- ปัญหาด้านเนื้อหา และการลำดับเนื้อหา
.. ปัญหานี้เกิดขึ้นกับครูและผู้เรียนเช่นเดี่ยวกัน
ในส่วนของครูอาจจะสอนเนื้อหาที่ไม่ต่อเนื่องกัน เนื้อหายากเกินไป
เนื้อหาไม่ตรงกับจุดมุ่งหมาย เนื้อหาไม่สัมพันธ์กัน และอื่น ๆ อีกมากมาย
ในส่วนของผู้เรียนก็จะเกิดปัญหาเช่นเดี่ยวกับที่กล่าวข้างต้นอันเป็นผลมาจากครู
อาจเป็นการสอนหรือวิธีการสอนของครูทำให้ผู้เรียนเบื่อหน่าย ไม่อยากเข้าห้องเรียน
มีทัศนคติที่ไม่ดีต่อการเรียนสิ่งนั้น ๆ
หรือปัญหาการสอนที่ไม่สอดคล้องกับจุดมุ่งหมายที่ตั้งเอาไว้ เช่น
ตั้งเป้าหมายไว้ว่าให้ผู้เรียนสามารถใช้กล้องถ่ายวิดีโอได้อย่างชำนาญ
แต่วิธีสอนกลับบรรยายให้ฟังเฉย ๆ และผู้เรียนไม่มีสิทธิจับกล้องเลย เป็นต้น
- ปัญหาข้อจำจัดต่าง ๆ
.....ในการสอนหรือการฝึกอบรมนั้นต้องใช้แหล่งทรัพยากร 3
ลักษณะ คือ บุคลากร ครูผู้สอน และสถาบันต่าง ๆ บุคลาการที่ว่านี้อาจจะเป็นวิทยากร
ผู้ช่วยเหลือต่าง ๆ เช่น พนักงานพิมพ์ ผู้ควบคุมเครื่องไม้เครื่องมือ หรืออื่น ๆ
.....สถาบันต่าง ๆ หมายถึง แหล่งที่เป็นความรู้
แหล่งที่จะให้ความร่วมมือสนับสนุนต่าง ๆ อาจเป็นห้องสมุด หน่วยงานต่าง ๆ เป็นต้น
ความสำคัญของ
การออกแบบการเรียนการสอน
องค์ประกกอบของการออกแบบการเรียนการสอน
.....ดังได้กล่าวข้างต้นว่า
การออกแบบการเรียนการสอนให้หลักการแนวทางของระบบ ดังนั้นในการออกแบบการเรียนการสอนจึงประกอบด้วยองค์ประกอบต่าง
ๆ ที่สัมพันธ์กันอย่างแยกไม่ได้
และในกระบวนการออกแบบการเรียนการสอนก็จะมีกลไกในการปรับปรุงแก้ไขตัวเอง อันได้แก่
กระบวนการใช้ข้อมูลป้อนกลับ (Feedback) จากการประเมินผลที่เรียกว่า การประเมินผลเพื่อการปรับปรุง (formative
evaluation)
เนื่องจากมีรูปแบบ (Model) สำหรับนำไปใช้ในการออกแบบการเรียนการสอนอยู่มากมายจึงมีความหลากหลายในองค์ประกอบในรูปแบบนั้น
ๆ แต่อย่างไรก็ตาม รูปแบบการเรียนการสอนใด ๆ ก็จะยึดแนวทางของรูปแบบดั้งเดิม (generic
model)
รูปแบบดั้งเดิม
(Generic model)
.....1. การวิเคราะห์ (Analysis)
.....2. การออกแบบ (Design)
.....3. การพัฒนา (Development)
.....4. การนำไปใช้ (Implementation)
.....5. การประเมินผล (Evaluation)
.....จากรูปแบบดังเดิม (Generic model) นี้จะมีผู้รู้ต่าง ๆ
นำไปสังเคราะห์เป็นรูปแบบต่าง ๆ มากมาย ตามความเชื่อความต้องการของตน
รูปแบบต่าง ๆ ของการออกแบบการเรียนการสอน
....ในที่นี้จะขอยกตัวอย่างรูปแบบการเรียนการสอนที่มีผู้คิดสร้างขึ้นเพื่อให้เห็นองค์ประกอบ
รายละเอียดโดยสังเขปและความสัมพันธ์ขององค์ประกอบต่าง ๆ
รูปแบบการสอนของดิคค์และคาเรย์ (Dick and Carey model)
.....รูปแบบการสอน (Model) ของดิคค์และคาเรย์ ประกอบด้วยองค์ประกอบด้วย
10 ขั้นด้วยกัน คือ
.........1. การกำหนดเป้าหมายของการเรียนการสอน (Identify Instructional Goals)
.........2. ดำเนินการวิเคราะห์การเรียนการสอน (Conduct Instructional Analysis)
.........3. กำหนดพฤติกรรมก่อนเรียนและลักษณะผู้เรียน (Identify Entry Behaviors, Characteristics)
.........4. เขียนจุดมุ่งหมายเชิงพฤติกรรม (Write Performance Objective)
.........5. พัฒนาข้อสอบอิงเกณฑ์ (Develop Criterion - Referenced Test Items)
.........6. พัฒนายุทธวิธีการสอน (Develop Instructional Strategies) .........7.
พัฒนาและเลือกวัสดุการเรียนการสอน (Develop and Select Instructional
Materials)
.........8. ออกแบบและดำเนินการประเมินเพื่อการปรับปรุง
(Design and Conduct Formative Evaluation)
.........9. การปรับปรุงการสอน (Revise Instruction)
.........10. การออกแบบและดำเนินการประเมินระบบการสอน (Design and Conduct Summative E valuation)
........ระบบการสอนของเกอร์ลาชและอีลาย (Gerlach and Ely Model) เกอร์ลาชและอีลายเสนอรูปแบบการออกแบบการสอนประกอบด้วยองค์ประกอบ
10 อย่างด้วยกันคือ
............1.การกำหนด
เป็นการกำหนดว่าต้องการให้ผู้เรียนรู้อะไร แค่ไหน อย่างไร
............2. การกำหนดเนื้อหา (Specify Content) เป็นการกำหนดว่าผู้เรียนต้องเรียนอะไรบ้างในอันที่จะบรรลุเป้าหมายที่ตั้งไว้
............3. การวิเคราะห์ประสบการณ์เดิมของผู้เรียน
(Analyze Learner Background Knowledge) เพื่อทราบความสามารถพื้นฐานของผู้เรียน
............4. เลือกวิธีสอน (Select Teaching Method) ทำการเลือกวิธีสอนให้สอดคล้องกับจุดมุ่งหมาย
............5. กำหนดขนาดของกลุ่ม (Determine Group Size) เลือกว่าจะสอนเป็นกลุ่มย่อยหรือกลุ่มใหญ่อย่างไร
............6. กำหนดเวลา (Time Allocation) กำหนดว่าจะใช้เวลาในการสอนมากน้อยเพียงใด
............7. กำหนดสถานที่ เครื่องอำนวยความสะดวก (Specify Setting and Facilities) กำหนดว่าจะสอนที่ไหน
ต้องเตรียมอะไรบ้าง
............8. เลือกแหล่งวิชาการ (Select Learning Resources) ต้องใช้สื่ออะไร อย่างไร
............9. ประเมินผล (Evaluation) ดูว่าการสอนเป็นไปตามจุดมุ่งหมายหรือไม่
............10. วิเคราะห์ข้อมูลป้อนกลับเพื่อการปรับปรุงแก้ไข
(Analyze Feedback for Revision) เป็นการวิเคราะห์ว่าถ้าการสอนไม่ได้ผลตามจุดมุ่งหมายจะทำการปรับปรุงแก้ไขตรงไหนอย่างไร
การวิเคราะห์ระบบ (System Analysis)
.....การวิเคราะห์ระบบ คือ กระบวนการศึกษาขอบข่าย (Network) ของปฏิสัมพันธ์ขององค์ประกอบต่าง ๆ ในระบบ
เพื่อจะเสนอแนวทางในการดำเนินการเพื่อปรับปรุงการทำงานของระบบนั้น ๆ (Semprevivo
, 1982)
.....ในการออกแบบการเรียนการสอนไม่ว่าจะเป็นรูปแบบการสอนของใครก็ตาม
จะมีกลไกหรือมี ข้อมูลเพื่อใช้ในการวิเคราะห์ระบบอยู่แล้ว ข้อมูลดังกล่าวคือ ข้อมูลป้อนกลับ
(Feedback) ต่าง ๆ
การที่ระบบการสอนมีองค์ประกอบให้เห็นอย่างชัดเจนและแสดงความสัมพันธ์ขององค์ประกอบ
ต่าง ๆ อย่างชัดเจน จะช่วยให้ง่ายต่อการวิเคราะห์ความสัมพันธ์ขององค์ประกอบต่าง ๆ
ว่าปัญหาระบบเกิดจากอะไร
.....การดำเนินการวิเคราะห์ระบบในรูปแบบ (Model) การสอนต่าง ๆ
นั้นทำได้ง่ายเพราะมีผู้จัดสร้างกลไกและจัดหาข้อมูลเตรียมไว้ให้แล้ว
แต่ถ้าจะดำเนินการวิเคราะห์ระบบอื่นใดที่นอกเหนือไปจากนี้แล้วกระบวนการคิดวิเคราะห์ก็จะต้องมีรายละเอียดและกระบวนการเพิ่มมากขึ้น
ในที่นี้จะขอเสนอแนวทางในการวิเคราะห์ระบบสำหรับระบบโดยทั่ว ๆ
ไปที่ไม่ใช่ระบบการเรียนการสอน ในการวิเคราะห์ระบบจะประกอบด้วยกิจกรรมต่าง ๆ
เป็นวงจรชีวิต (Life cycle) ดังต่อไปนี้ คือ
............1. การกำหนดปัญหา (Problem definition)
............2. การรวบรวมและวิเคราะห์ข้อมูล (Data collection and analysis)
............3. การวิเคราะห์ทางเลือกของระบบ (Analysis of system alternatives)
............4. ศึกษาความเป็นไปได้ของทางเลือก (Determination 0f feasibility)
............5. การพัฒนาแนวคิดเพื่อเสนอขอความคิดเห็น (Development 0f the systems proposal)
............6. การพัฒนาและทดลองใช้ต้นแบบ (Pilot of prototype systems development)
............7. การออกแบบระบบ (System design)
............8. การพัฒนาโปรแกรม (Program development)
............9. การนำระบบใหม่เข้าไปใช้ (System implementation)
............10. การตรวจสอบและการประเมินระบบ (Systems implementation)
.....กิจกรรมทั้ง 10 นี้
ปกติแล้วจะไม่สามารถดำเนินการในลักษณะที่แยกออกจากกันอย่างเด็ดขาดได้
เพราะในลักษณะการทำงานจริง
กิจกรรมเหล่านี้จะมี่ความเกี่ยวโยงกันจนแยกไม่ออก ย้ำอีกครั้งหนึ่งว่า
กระบวนการวิเคราะห์ระบบทั้ง 10 นี้ ข้อที่กล่าวมาข้างต้นใช้สำหรับการ
วิเคราะห์ระบบที่นอกเหนือจากระบบการเรียนการสอน
ทั้งนี้เนื่องจากระบบการเรียนการสอนนั้นได้สร้างกลไกและข้อมูลสำหรับตรวจสอบแก้ไขระบบอยู่ในตัวแล้ว
วิธีการเชิงระบบในการออกแบบการเรียนการสอน โดย ผศ.ดร.รสสุคนธ์ มกรมณี
.....ในการดำเนินภารกิจการสอน
ครูจะต้องมีการวางแผนจัดการเรียนรู้และตั้งวัตถุประสงค์ของการเรียนรู้นั้นๆ
ให้ดีเสียก่อน
เพื่อเป็นข้อมูลในเตรียมเนื้อหาบทเรียนและวิธีการสอนที่จะทำให้ได้ผลลัพธ์คือการที่ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้ตามวัตถุประสงค์ที่ตั้งไว้
การจัดระบบการเรียนการสอนคือกระบวนการที่จะช่วยสร้างความมั่นใจให้แก่ผู้สอนว่าจะได้ผลลัพธ์ตามที่ต้องการ
และถ้าหากมีปัญหาหรือความผิดพลาดเกิดขึ้น ก็จะสามารถแก้ไขได้ตรงจุด
การเรียนการสอนจึงมีการพัฒนาให้เกิดประสิทธิภาพและประสิทธิผลอย่างต่อเนื่อง
เป้าหมายหลักของการจัดระบบการเรียนการสอนมี 2 ประการคือ
..........1.
เพื่อจัดกระบวนการเรียนการสอนให้ผู้สอนและผู้เรียนมีปฏิสัมพันธ์กัน
โดยใช้วิธีการต่างๆ ในการเอื้ออำนวยให้ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้ได้ดีที่สุด
..........2. เพื่อออกแบบระบบการเรียนการสอน
โดยใช้วิธีการที่เป็นระบบในการออกแบบ การวางแผน การนำไปใช้
และการประเมินกระบวนการทั้งหมดของระบบการสอนนั้น
ระบบการเรียนการสอนต้องอาศัยองค์ประกอบหลายส่วนมาร่วมกันทำงานให้เกิดผลลัพธ์ที่ต้องการ
อย่างไรก็ตาม
การออกแบบระบบการสอนโดยใช้แบบจำลอง ADDIE
(Instructional System
Design (ISD): Using the ADDIE Model)
การวิเคราะห์(Analysis)
ขั้นตอนการวิเคราะห์เป็นรากฐานสำหรับขั้นตอนการออกแบบการสอนขั้นตอนอื่นๆ ในระหว่างขั้นตอนนี้ คุณจะต้องระบุปัญหา, ระบุแหล่งของปัญหา และวินิจฉัยคำตอบที่ทำได้
ขั้นตอนนี้อาจประกอบด้วยเทคนิคการวินิจฉัยเฉพาะ เช่น
การวิเคราะห์ความต้องการ(ความจำเป็น) , การวิเคราะห์งาน,
การวิเคราะห์ภารกิจ
ผลลัพธ์ของขั้นตอนนี้มักประกอบด้วย เป้าหมาย (goal), และรายการภารกิจที่จะสอน
ผลลัพธ์เหล่านี้จะถูกนำเข้าไปยังขั้นตอนการออกแบบต่อไป
การออกแบบ (Design)
ขั้นตอนการออกแบบเกี่ยวข้องกับการใช้ผลลัพธ์จากขั้นตอนการวิเคราะห์
เพื่อวางแผนกลยุทธ์สำหรับพัฒนาการสอนในระหว่างขั้นตอนนี้คุณจะต้องกำหนดโครงร่างวิธีการให้บรรลุถึงเป้าหมายการสอน
ซึ่งได้รับการวินิจฉัยในระหว่างขั้นตอนการวิเคราะห์ และขยายผลสารัตถะการสอน
องค์ประกอบบางประการของขั้นตอนการออกแบบอาจจะประกอบด้วยการเขียนรายละเอียดกลุ่มประชากรเป้าหมาย, การดำเนินการวิเคราะห์การเรียน, การเขียนวัตถุประสงค์และข้อทดสอบ,
เลือกระบบการนำส่ง และจัดลำดับขั้นตอนการสอน
ผลลัพธ์ของขั้นตอนการออกแบบจะเป็นข้อมูลนำเข้าสำหรับขั้นตอนการพัฒนาต่อไป
การพัฒนา (Development)
ขั้นตอนการพัฒนาสร้างขึ้นบนบนขั้นตอนการวิเคราะห์และการออกแบบ
จุดมุ่งหมายของขั้นตอนนี้คือสร้างแผนการสอนและสื่อของบทเรียนในระหว่างขั้นตอนนี้คุณจะต้องพัฒนาการสอนและสื่อทั้งหมดที่ใช้ในการสอน
และเอกสารสนับสนุนต่างๆ สิ่งเหล่านี้อาจจะประกอบด้วยฮาร์ดแวร์ (เช่น
เครื่องมือสถานการณ์จำลอง) และซอฟต์แวร์ (เช่น บทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอน)
การดำเนินการให้เป็นผล (Implementation)
ขั้นตอนการดำเนินการให้เป็นผล
หมายถึงการนำส่งที่แท้จริงของการสอน ไม่ว่าจะเป็นรูปแบบชั้นเรียน หรือห้องทดลอง
หรือรูปแบบใช้คอมพิวเตอร์เป็นฐานก็ตาม
จุดมุ่งหมายของขั้นตอนนี้คือการนำส่งการสอนอย่างมีประสิทธิภาพและประสิทธิผล ขั้นตอนนี้จะต้องให้การส่งเสริมความเข้าใจของผู้เรียนในสารปัจจัยต่างๆ, สนับสนุนการเรียนรอบรู้ของผู้เรียนในวัตถุประสงค์ต่างๆและเป็นหลักประกันในการถ่ายโอนความรู้ของผู้เรียนจากสภาพแวดล้อมการเรียนไปยังการงานได้
การประเมินผล (Evaluation)
ขั้นตอนนี้วัดผลประสิทธิภาพและประสิทธิผลของการสอน
การประเมินผลเกิดขึ้นตลอดกระบวนการออกแบบการสอนทั้งหมด กล่าวคือ
ภายในขั้นตอนต่างๆ
และระหว่างขั้นตอนต่างๆ และภายหลังการดำเนินการให้เป็นผลแล้ว การประเมินผล อาจจะเป็นการประเมินผลเพื่อพัฒนา (Formative evaluation) หรือการประเมินผลรวม (Summative
evaluation)
การประเมินผลเพื่อพัฒนา (Formative evaluation):
ดำเนินการต่อเนื่องในภายในและระหว่างขั้นตอนต่างๆ
จุดมุ่งหมายของการประเมินผลชนิดนี้ คือ
เพื่อปรับปรุงการสอนก่อนที่จะนำแบบฉบับขั้นสุดท้ายไปใช้ให้เป็นผล
การประเมินผลรวม (Summative evaluation):
โดยปกติเกิดขึ้นภายหลังการสอน
เมื่อแบบฉบับขั้นสุดท้ายได้รับการดำเนินการใช้ให้เป็นผลแล้ว
การประเมินผลประเภทนี้จะประเมินประสิทธิผลการสอนทั้งหมด
ข้อมูลจากการประเมินผลรวมโดยปกติมักจะถูกใช้เพื่อการตัดสินใจเกี่ยวกับการสอน (เช่นจะซื้อชุดการสอนนั้นหรือไม่
หรือจะดำเนินการต่อไปหรือไม่)
ทฤษฎี
การออกแบบระบบการเรียนการสอน (Instructional System
Design : ISD)
ซึ่งเป็นเนื้อหาที่รายวิชาได้นำเสนอไว้
ในสัปดาห์ที่ 3
โดยนำเสนอรูปแบบของระบบการเรียนการสอนมีหลายรูปแบบ
แต่ละรูปแบบสรุปแล้ว อยู่ในกรอบของ ADDIE Model (Analysis, Design, Development, Implementation,
Evaluation)
กระบวนการจัดการเรียนการสอนโดยส่วนตัว
เมื่อได้รับมอบหมายจากภาควิชาให้รับผิดชอบสอนในรายวิชาใด
ก็จะวางแผนการสอน สิ่งแรกที่ต้องทำ
(เป็นข้อบังคับของฝ่ายวิชาการของมหาวิทยาลัย) คือ
ต้องส่ง แนวการสอนหรือแผนการสอน (Course Syllabus) ตลอดทั้งภาคเรียน
ซึ่งอาจมีรายละเอียดที่แตกต่างกันบ้าง
ในแต่ละสถาบัน
แต่ส่วนใหญ่น่าจะเป็นแผนการสอนโดยคร่าว
ๆ ส่วนประกอบ ได้แก่
ข้อมูลเกี่ยวกับรายวิชา
คำอธิบายรายวิชา จุดประสงค์ทั่วไป
แผนการสอนแต่ละบท/สัปดาห์
ที่ประกอบด้วยจุดประสงค์เชิงพฤติกรรม เนื้อหา
(หัวเรื่องหลักและหัวเรื่องรอง)
กิจกรรมและวิธีการสอน สื่อการเรียนการสอน
ชื่อตำราหรือหนังสื่อที่ใช้ประกอบ
และ เกณฑ์การวัดและประเมินผล
กระบวนการเขียนแผนการสอนนี้
ผมคิดว่าเป็นกระบวนการออกแบบระบบการเรียนการสอน
เพียงแต่ไม่ได้แบ่งแยกขั้นตอนให้ชัดเจน
และบางขั้นตอนยังอาจจะยังไม่สมบูรณ์
ผมลองวิเคราะห์สิ่งที่ตนเองปฏิบัติหน้าที่ในการสอนที่ผ่านมา
เชื่อมโยงกับทฤษฎีการออกแบบระบบการเรียนการสอน
พอสรุปได้ดังนี้
1) การวิเคราะห์ (Analysis) ในประเด็นต่าง
ๆ ได้แก่
-
การวิเคราะห์ความจำเป็น
สำหรับวิชาที่จัดไว้ในหลักสูตร
และเป็นวิชาที่เลือกให้นักศึกษาเรียน
ส่วนนี้คณะกรรมการบริหารหลักสูตร
ได้ทำการวิเคราะห์ถึงความจำเป็น
ด้วยเหตุและผล
อาจมีการปรับเปลี่ยนหลักสูตร
คำอธิบายรายวิชาให้ทันสมัยตามความก้าวหน้าทางวิชาการที่เปลี่ยนไป
-
การวิเคราะห์งานหรือการเรียนการสอน
ได้แก่
การวิเคราะห์เนื้อหาและกิจกรรมต่าง
ๆ
ที่ผู้สอนต้องทำในรายวิชา
โดยการแสดงหัวข้อเนื้อหาหลัก หัวเรื่องรอง
โดยยึดกรอบคำอธิบายรายวิชาเป็นหลัก
- การวิเคราะห์ผู้เรียน
ส่วนใหญ่มักทำด้วยกระบวนการสั้น
ๆ เช่น สอบถามความรู้พื้นฐาน
บางครั้งอาจมีการประเมินผลก่อนเรียน
แต่ส่วนใหญ่ไม่ได้นำมาใช้ประโยชน์ในการออกแบบการเรียนการสอนเท่าไรนัก
ทั้งที่เป็นส่วนสำคัญมาก
ๆ
ที่จะช่วยให้ผู้เรียนประสบความสำเร็จทางการเรียน
แต่เนื่องจากมีผู้เรียนจำนวนมากในห้องเรียน
ผู้สอนไม่อาจออกแบบการสอนให้เหมาะสมกับผู้เรียนเป็นรายบุคคลได้
จึงออกแบบการสอนให้เหมาะกับผู้เรียนส่วนใหญ่ในห้อง
- การวิเคราะห์วัตถุประสงค์
มีการวิเคราะห์วัตถุประสงค์ในการเรียนการสอน
โดยแบ่งเป็นวัตถุประสงค์ทั่วไปของรายวิชา
และวัตถุประสงค์เชิงพฤติกรรมในแต่ละบท
2) การออกแบบ (Design)
คือ การออกแบบในส่วนของ
วัตถุประสงค์การสอนแต่ละบทหรือแต่ละสัปดาห์
เน้นการพัฒนาผู้เรียนให้ครบทั้ง
3 ด้าน คือ ด้านสติปัญญา (Cognitive) ด้านทักษะ (Psychomotor) และด้านลักษณะนิสัย
(Affective) ลำดับเนื้อหาในการสอน
ระบุวิธีสอนหรือ
กลยุทธ์ในการสอน
ซึ่งส่วนใหญ่ก็ใช้วิธีการบรรยาย
อภิปราย มอบหมายงาน
(ส่วนใหญ่ยังใช้วิธีผู้สอนเป็นศูนย์กลาง)
เลือกสื่อการสอน และกำหนดวิธีการประเมินผล
ทั้งหมดได้ออกแบบโดยกำหนดไว้ในแผนการสอนแล้ว
แต่จะนำมาใช้ตามแผนได้ทั้งหมดหรือไม่นั้น
บางครั้งมีข้อจำกัดในเรื่องของเวลา
(ถ้าสอนในชั้นเรียนปกติ
และมีนักศึกษากลุ่มใหญ่)
3) การพัฒนา (Development)
กระบวนการพัฒนา ได้แก่
การนำสิ่งที่คิดหรือออกแบบไว้มาใช้
ได้แก่
- การพัฒนาเนื้อหา
กรณีไม่พัฒนาตำราหรือเอกสารประกอบการสอนเอง
ก็ใช้วิธีการเลือกหนังสือหรือตำราที่มีเนื้อหาสอดคล้องกับสิ่งที่ออกแบบไว้
- การพัฒนาสื่อ
ที่สามารถทำได้ขณะนี้คือ
สไลด์ประกอบการสอน
เว็บไซต์แหล่งค้นคว้าเพิ่มเติม
- การประเมินในขณะพัฒนา
เป็นกระบวนการที่สำคัญ
ผู้สอนมักไม่ค่อยได้นำมาใช้
เพราะมีขั้นตอนที่ยุ่งยาก
อาจต้องมีผู้เชี่ยวชาญช่วยประเมินตรวจสอบ
หรือใช้กระบวนการวิจัยสื่อทำการหาประสิทธิภาพและประสิทธิผลของสื่อ
4) การนำไปใช้ (Implementation) คือ
ขั้นตอนการนำแผนการสอนที่ได้วิเคราะห์
ออกแบบ
และพัฒนาไว้ไปใช้สอนจริง
โดยพยายามดำเนินการตามแผนการสอนหรือระบบการเรียนการสอนที่ออกแบบไว้
5) การวัดและประเมินผล
(Evaluation) กระบวนการวัดและประเมินผลการสอน
ส่วนใหญ่เป็นขั้นตอนการวัดและประเมินผลเพื่อเป็นการตัดสินผู้เรียน
(เพื่อตัดเกรด) คือ การสอบระหว่างเรียน การสอบปลายภาค
การตรวจผลงานหรือโครงการที่มอบหมาย
ยังไม่ได้เน้นกระบวนการวัดผลเพื่อปรับปรุงผู้เรียนในขณะเรียน
ผมคิดว่าเป็นกระบวนการที่สำคัญ
เพราะเป็นการประเมินว่าระบบการเรียนการสอนของเราว่ามีประสิทธิภาพเพียงใด
มีข้อบกพร่องหรือไม่ ต้องแก้ไขปรับปรุงส่วนใด
แต่กระบวนการดังกล่าว อาจทำได้ค่อนข้างยาก
และผู้สอนต้องทุ่มเทเวลาให้อย่างมาก
จากประสบการณ์การสอนในระบบปกติที่กล่าวมา
ผมคิดว่าหลายท่านที่เป็นผู้สอนอยู่
อาจมีกระบวนการคล้ายกับผม
คือได้มีการออกแบบระบบการเรียนการสอนในรายวิชาที่รับผิดชอบไว้แล้ว
โดยมีเครื่องมือที่สำคัญคือ แผนการสอน
(Course Syllabus) หรือแนวการสอน
หลังจากได้ศึกษาทฤษฎีระบบการเรียนการสอนแต่ละแบบที่เสนอเนื้อหาในสัปดาห์นี้แล้ว
ผมเองคิดว่าจะนำไปปรับปรุงขั้นตอนของการออกแบบระบบการเรียนการสอนให้สมบูรณ์ยิ่งขึ้น
โดยนำไปใช้กับ
ระบบการเรียนการสอนแบบอีเลิร์นนิ่ง
ขณะนี้ผมเองกำลังทดลองใช้ Moodle LMS เป็นเครื่องมือในการบริหารจัดการรายวิชาอยู่ครับ
อีกประเด็นหนึ่งคือ
การพัฒนาระบบการเรียนการสอน นั้น ผมคิดว่าผู้สอนต้องทุ่มเทและเหนื่อยมากขึ้นครับ
ถ้าจะให้ดีน่าจะ
พัฒนาระบบการเรียนการสอนให้เป็นลักษณะงานวิจัยชั้นเรียน
จะได้ทั้งระบบการเรียนที่มีประสิทธิภาพและได้ผลงานวิจัยด้วย
ซึ่งผมเองกำลังทำวิจัยเกี่ยวกับประสิทธิภาพและผลสัมฤทธิ์ของการใช้ระบบอีเลิร์นนิ่งในการจัดการการเรียนการสอน
สมาชิกท่านใดมีประสบการณ์ในด้านนี้
ยินดีแลกเปลี่ยนประสบการณ์กันครับ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น